วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

น้ำตกพลิ้ว

น้ำตกพลิ้ว


   วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ อากาศเมืองจันท์ค่อนข้างร้อนครับ อากาศร้อนๆแบบนี้จะพาไปคลายร้อนด้วยการไปเที่ยวน้ำตกครับ และน้ำตกที่ว่านี้ก็คือ น้ำตกพลิ้ว




   น้ำตกพลิ้ว หรือ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุม 4 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.แหลมสิงห์ อ.มะขาม และ อ.ขลุง  เป็นอุทยานแห่งชาตลำดับที่ 11 ของประเทศไทย  น้ำตกพลิ้วอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียงแค่ 14 กิโลเมตรเท่านั้นครับ และการเดินทางมาที่นี่ก็สะดวกสบายครับ




   บรรยากาศที่น้ำตกพลิ้ว อากาศเย็นสบาย และสดชื่นสุดๆ ได้กลิ่นของธรรมชาติ ใครที่เบื่อชีวิตคนเมืองมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่นี่รับรอง ต้องถูกใจแน่ๆ 




   ป้ายบอกเส้นทางต่างๆ ที่นี่นอกจากน้ำตกพลิ้วแล้ว ยังมีอีกอีกหลายๆจุดที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์นั่นก็คือ อลงกรณ์เจดีย์ กับ ปิรามิดพระนางเรือล่ม 

    มาถึงน้ำตกสิ่งที่สังเกตและเป็นจุดเด่น อีกอย่างหนึ่งของน้ำตกพลิ้วก็คือ ปลาพลวง ต้องบอกว่าน้ำตกพลิ้วปลาพลวงเยอะมากๆและที่สำคัญเจ้าปลาพลวงยังชอบกินถั่วฝักยาวเป็นที่สุด จะเห็นว่าร้านค้าริมทางบริเวณทางขึ้นจะมีถั่วฝักยาวขาย ก่อนขึ้นก็ซื้อติดไม้ ติดมือมาฝากเจ้าปลาพลวงกันได้ครับ
    






    น้ำตกพลิ้ว นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จะมีเส้นทางให้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นสภาพป่า พรรณไม้ต่างๆ 




    และสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวจันท์ก็คือ ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ทรงเสด็จประพาสที่น้ำตกแห่งนี้ และได้ทรงยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามมากที่สุด เท่าที่เคยเสด็จประพาส  และเมื่อเดินขึ้นไปทางด้านบนจะพบกับ สถูปรูปพีรามิด





    สถูปรูปพีรามิด หรือ เรียกว่า สถูปพระนางเรือล่ม ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี  ส่วนอลงกรณ์เจดีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอัครมเหสี ได้ทรงโปรดปรานให้สร้างเจดีย์ที่สร้างด้วยศิลาแลงขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาส 




    วันหยุดนี้ท่านใดสนใจก็สามารถแวะมาเที่ยวชมความงามของ น้ำตกพลิ้ว กันได้นะครับ บทความครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรติดตามกันต่อไปนะครับ มีความสุขในวันหยุดครับ




ขอบคุณภาพ คู่หูคนเดินทาง








วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ตลาดน้ำพุ " ตลาดเก่าใจกลางเมืองจันท์ "

       ถ้าพูดถึง ตลาดน้ำพุ คนเมืองจันท์ย่อมรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นตลาดที่อยู่คู่กับเมืองจันท์มายาวนาน เหตุที่เรียกว่าตลาดน้ำพุ อาจเป็นเพราะที่นี่ จะมีวงเวียนน้ำพุ ตั้งอยู่ก็เป็นได้ 



      ตลาดน้ำพุแห่งนี้ถือเป็นศูนย์รวมของสินค้าต่างๆ มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้  ของสด  ขนม  สินค้าพื้นเมือง อาหารแห้ง กะปิ น้ำปลา ปลาหมึก และร้านค้าอีกหลายๆ ร้านอาหารที่รอให้คุณได้ไปชิมลิ้มรสความอร่อย นอกจากนี้ยังมีร้านขายเสื้อผ้า และร้านทองตั้งอยู่บริเวณโดยรอบๆตลาด เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวสามารถเลือกซื้อสินค้าต่างๆได้แทบจะครบทุกอย่างนะครับ







     ตลาดน้ำพุ ยังคงมนต์เส่นห์ที่อยู่คู่กับเมืองจันทบุรีต่อไป ท่านใดมีเวลาช่วงยามเย็นสามารถแวะมาหาของอร่อยๆทานกันที่ ตลาดแห่งนี้กันได้นะครับ เอาไว้วันหน้าจะมารีวิว ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ มาให้ชมกันนะครับ เพราะแถวนี้เขาบอกกันว่า มีแต่ของอร่อยครับ





วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557

วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2557




วันแม่แห่งชาติวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี


วันแม่แห่งชาติ 2557
วันแม่แห่งชาติปี 2557 นี้ตรงกับวันอังคาร 12 สิงหาคม 2557 และเป็นปีมหามงคลยิ่ง
เนื่องจากสมเด็จพระบรมราชินีนารถ ทรงมีพระชนมายุครบ 82 พรรษา


คำขวัญวันแม่ 2557


“รักเรียน รู้งาน
ถนอมบ้านเมืองไทย
ร่วมใจสามัคคี
คือลูกที่ดีของแม่”


สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
พระราชทาน “คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2557


ประวัติวันแม่

       แต่เดิมนั้น วันแม่แห่งชาติได้กำหนดเอาไว้เมื่อ วันที่ 15 เมษายน ของทุก ๆ ปี ซึ่งเป็นมติของคณะรัฐมนตรีประกาศรับรอง เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2493 ได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่ของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติผู้รับมอบหมายให้จัดงาน วันแม่ มาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2493 เป็นครั้งแรกเป็นต้นมาจากนั้นได้รับความสำเร็จด้วยดีด้วยประชาชนให้การสนับสนุนจนสามารถขยายขอบข่ายของงานให้กว้างขวางออกไป และมีการจัดพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา การประกวดคำขวัญวันแม่ ประกวดเรียงความวันแม่ การประกวดแม่ของชาติ เพื่อให้เกียรติและตระหนักในความสำคัญของแม่ ด้วยเหตุนี้งานวันแม่จึงเป็นวันแม่ประจำปีของชาติตามประกาศของ รัฐบาลฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม       โดยทั่วไปเรียกกันว่าวันแม่ของชาติ ต่อมา พ.ศ.2519 ทางราชการได้เปลี่ยนแปลงใหม่ให้ถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คือ วันที่ 12 สิงหาคม เป็น วันแม่แห่งชาติ เริ่มใน ปี พ.ศ.2519 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน



สัญลักษ์ประจำวันแม่

     ดอกมะลิ ซึ่งมีสีขาวบริสุทธิ์ ส่งกลิ่นหอมไปไกลและหอมได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่มีวันเสื่อมคลาย มะลิ เป็นพืชดอก พบได้ในเอเชีย ดอกมีกลิ่นหอมเย็น คนไทยนิยมนำมาลอยน้ำเย็นเพื่อดื่ม


เพลงที่ใช้ในวันเเม่

     ค่าน้ำนม คือ เพลงอย่างเป็นทางการที่ใช้ใน งานวันเเม่เเห่งชาติ เเต่งขึ้นโดย อาจารย์ สมยศ ทัศนพันธ์ ได้เรียบเรียงบทเพลงที่เรียกได้ว่า ขึ้นหิ้งอมตะ และเป็นงานเพลงชิ้นเอก ซึ่งได้ฟังเมื่อไร เป็นต้องหวนระลึกถึงบุญคุณของเเม่เเละวันคืนเก่าๆ ของวิถีไทยในสมัยก่อน

เพลงค่าน้ำนม



เพลงอิ่มอุ่น





เพลง เรียงความเรื่องแม่



วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ต้นตะเคียนอายุกว่า 500ปี สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ชาวบ้านฮือฮา พบต้นตะเคียนอายุกว่า 500ปี สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 
ร่วมกราบไหว้ เซียนหวยแห่ขอเลขเด็ดตรึม

     นายปราโมทย์ สุขสำราญ เจ้าของเนื้อที่ดิน หมู่ 7 ต.เกาะขวาง อ.เมือง จ.จันทบุรี แจ้งว่าในที่นาร้างของตนเอง ที่เป็นที่ทางกรมชลประทานได้เวนคืนที่ดิน และนำรถแบล็คโฮ จำนวน 9 คัน ไปขุดลอกคลองบริเวณหมู่บ้านเกาะตะเคียน บริเวณดังกล่าว เพื่อทำเป็นที่ผันน้ำออกนอกเมือง เพื่อน้ำได้ไหลผ่านเมืองจันทบุรีออกสู่ท้องทะเล แต่ปรากฏว่าได้ขุดพบต้นตะเคียน มีความยาว 18 เมตร ความกว้าง 2 เมตรกว่า อายุกว่า 500 ปี ที่ถูกฝังลึกอยู่ประมาณ 4เมตร จึงได้แจ้งไปยัง นายดรุณ ทองนพคุณ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.เกาะขวาง อ.เมือง จ.จันทบุรี เพื่อรับทราบ และนำมาไว้ที่วัดเกาะตะเคียน เมื่อชาวบ้านทราบข่าวต่างแห่ออกมาดู กับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ซึ่งยังเป็นสิริมงคลให้กับหมู่บ้าน ด้วยเชื่อกันว่าตะเคียนต้นนี้อายุ500ปีขึ้นไป และได้ ถูกโค่นลงเพื่อนำไปสร้างกองเรือให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสิน เพื่อนำไปกู้เอกราช ชาวบ้านได้เรี่ยไรเงินเพื่อจ้างนางรำมารำถวาย พร้อมกับว่าจ้างหนังกลางแปลงฉายอีกด้วย ซึ่งทาง พระครูโบฎีกา ปรีชา โชติโก เจ้าอาวาสวัดเกาะตะเคียน กล่าวว่า จะนำต้นตะเคียนต้นนี้ ไว้ที่วัด เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการะ เนื่องจากในพื้นที่ยังไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย 

     นายปราโมทย์ สุขสำราญเจ้าของเนื้อที่ดินดังกล่าว กล่าวว่า บริเวณที่พบต้นตะเคียนแห่งนี้ เป็นพื้นที่ของตนเอง โดยได้มีการสัมปทานพื้นที่ไปแล้ว เพื่อให้ทางบริษัทดังกล่าว ได้มาทำการ ขุดลอก ทำเป็นที่ผันน้ำออกนอกเมือง เพื่อน้ำได้ไหลผ่านเมืองจันทบุรีออกสู่ท้องทะเล แต่ปรากฏว่าได้ขุดพบต้นตะเคียนในครั้งนี้ จึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน ทราบข่าวแล้วนำมาไว้ที่วัดแห่งนี้ ส่วนชาวบ้านที่ทราบข่าว และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการแห่กันมาจุดธูป ขอเลขเด็ดกันเป็นจำนวนมาก นายมนตรี พงษ์เจริญ นักประวัติศาสตร์ชาวจันทบุรี เปิดเผยว่า ต้นตะเคียนที่ ขุดพบในครั้งนี้ สันนิษฐานว่า เป็นต้นตะเคียนโบราณที่หักโค่นโดยธรรมชาติ เพราะในอดีตบริเวณหมู่บ้านแห่งนี้ มีต้นตะเคียนหนาแน่น ประกอบกับพื้นที่มีน้ำล้อมรอบคล้ายเกาะ จึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า หมู่บ้านเกาะตะเคียน และนิยมนำไปใช้ต่อเรือ ส่วนอายุของต้นตะเคียนที่ขุดพบอายุเกินกว่า 200 ปี 

     ซึ่งโดยประวัติศาสตร์จันทบุรี เป็นจังหวัดที่มีการต่อเรือรบมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสมัยรัชกาลที่ 3 ที่มีการต่อเรือรบลำแรกของไทย ที่ตำบลอู่ต่อเรือสยาม โดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยะวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ที่มีการนำไม้ตะเคียนจากหมู่บ้านเกาะตะเคียนไปประกอบเป็นเรือ ในช่วงปี พ.ศ.2377 – 2378 แต่ชาวจันทบุรีส่วนใหญ่มักสันนิษฐานว่า เป็นเรือสมัยพระเจ้าตากสิน พ.ศ.2310 ตามความเชื่อ ซึ่งห่างจากการต่อเรือสมัยรัชกาลที่ 3 เพียง 67 ปี บริเวณเกาะตะเคียนจึงเป็นชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยขอมลงมา





วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

อู่ต่อเรือพระเจ้าตาก หรือ อู่ต่อเรือบ้านเสม็ดงาม

อู่ต่อเรือพระเจ้าตาก หรือ อู่ต่อเรือบ้านเสม็ดงาม


    อู่ต่อเรือพระเจ้าตาก หรือ อู่ต่อเรือเสม็ดงาม ตั้งอยู่ที่บ้านเสม็ดงาม ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง ห่างจากอำเภอเมือง ๑๑ กิโลเมตร สันนิษฐานว่าเป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ใช้เป็นอู่ต่อเรือเมื่อครั้งเตรียมยกทัพไปตีพม่า เพื่อกู้เอกราชชาติไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ หน่วยโบราณคดีใต้น้ำ กองโบราณคดี กรมศิลปากร ได้ขุดค้นซากเรือและตรวจสอบชั้นดินทางโบราณคดีตามริมฝั่งอ่าว พบแอ่งน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลักษณะคล้ายอู่เรืออยู่หลายแห่ง พร้อมทั้งส่วนประกอบต่าง ๆ ของเรือโบราณ และสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเรือสำเภาจีนแบบฟูเจียนขนาดเล็กใช้สำหรับบรรทุกสินค้า มีใบสามเถาใช้หางเรือเสือ ขนาดเรือยาว ๒๔ เมตร กว้าง ๕ เมตร บริเวณใกล้เคียงมีโรงเก็บเรือจำลอง และเรือของชาวบ้านที่เคยใช้กันในอดีต



น้ำตกพลิ้ว

น้ำตกพลิ้ว
     อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 134.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่ ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย อยู่ห่างจากจังหวัดจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร

     ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ถูกเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป แต่ต่อมา นายผจญ ธนมิตรามณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสระบาป ได้ทำหนังสือขอเปลี่ยนชื่อ อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป เป็น อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เนื่องจาก "น้ำตกพลิ้ว" เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ มีน้ำตกตลอดปี อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป และเป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2525 เห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อเป็น "อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว"

     น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสายธาร 2 สาย สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ทั้งสองสายไหลมารวมกันในแอ่งน้ำใสสะอาด มากสามารถมองเห็นพื้นล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลอง มีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

     น้ำตกพลิ้ว เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ซึ่งประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดอื่น ๆ รู้จักกันดี อีกทั้ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาสน้ำตกแห่งนี้หลายครั้ง ในระหว่างปี พ.ศ. 2417-2424 และทรงยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่งดงามที่สุด ในบรรดาน้ำตกที่พระองค์เคยเสด็จประพาส




ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

     ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่บนถนนท่าหลวง บริเวณหน้าค่ายตากสิน เป็นอาคารรูปทรงเก้าเหลี่ยม หลังคาเป็นรูปพระมาลา หรือหมวกยอดแหลม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ ภายในประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งในแต่ละวันจะมีประชาชนมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก